12 มีนาคม 2566

คำถามที่พบบ่อย

ควรบำรุงรักษาโซ่เมื่อไหร่ บ่อยแค่ไหน

ควรบำรุงรักษาโซ่เมื่อไหร่ บ่อยแค่ไหน

12 มีนาคม 2566

แนะนำให้บำรุงรักษา ทุก ๆ 500 กิโลเมตร หรือหลังจากวิ่งในสภาพฝนตกหรือวิ่งด้วยความเร็วสูง


ควรบำรุงรักษาโซ่เมื่อไหร่ และบ่อยแค่ไหน?


ควรฉีดที่บริเวณ

  • ระหว่าง ประกับใน-ประกับนอก (Inner plate - Outer plate)
  • ระหว่าง ประกับใน-ลูกกลิ้ง (Inner plate - Roller)
  • ผิวหน้า แผ่นประกับ (Plate)

ข้อควรระวัง 

  •  แนะนำให้ใส่หลังวิ่งใช้งาน!
  • ระวังอย่าใส่มากเกินไป
  • ควรทำความสะอาดก่อนใส่น้ำมัน


มีวิธีดูแลรักษาโซ่อย่างไร ให้มีสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา

  • หมั่นทำความสะอาด เศษฝุ่นละออง หิน กรวด ทราย ที่ติดอยู่บริเวณโซ่ (ไม่แนะนำให้ใช้น้ำมันเบนซินหรือผงซักฟอกในการล้างทำความสะอาดโซ่ เนื่องจากน้ำมันเบนซินจะทำปฏิกิริยากับลูกยางของโซ่ ซึ่งจะส่งผลให้ลูกยางเสียหาย
  • หมั่นหล่อลื่นน้ำมันทุกๆ 500 กิโลเมตร หรือประมาณเดือนละครั้ง (หลังจากทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว)
  • ปรับตั้งระยะยืดหยุดตามมาตรฐานของคู่มือรถ

กรณีทำการใช้งานไปซักระยะหนึ่ง และปฏิบัติตามหัวข้อที่กล่าวมาข้างต้นทุกประการแล้ว โซ่ของท่านยังหย่อนเกินกว่ามาตรฐานหรือมีเสียงดังผิดปกติ ควรเปลี่ยนโซ่-สเตอร์ใหม่ ทั้งชุดทันที



ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อการยืด และเกิดการสึกหรอของโซ่ ?
สาเหตุที่ทำให้โซ่ยืดหรือเกิดการสึกหรอ การเสียดสีของชิ้นส่วน 2 ชิ้น คือ สลักและปลอกสลักเสียดสีกัน จนเกิดช่องว่างระหว่างชิ้นส่วน และนอกเหนือจากสาเหตุหลัก แล้วยังมีอีกหลายประการ เช่น
  • มีการบรรทุกน้ำหนักมากกว่ามาตรฐานที่รถกำหนด
  • ขับขี่รถโดยใช้แรงกระชาก หรือแรงกระทำที่มากเกินไป
  • ขับขี่รถในสภาพถนนไม่เรียบและมีการสั่นสะเทือนบ่อยๆ
  • ขาดการหล่อลื่นน้ำมัน

นอกจากสาเหตุที่โซ่ยืดแล้วถ้าขาดการดูแลรักษาที่ดี ก็อาจจะทำให้โซ่ข้อตายหรือเป็นสนิมได้ เช่น การขับรถในสภาพถนนที่มีน้ำขัง หรือขาดการทำความสะอาด เศษ ฝุ่นละออง หิน กรวด ทราย ที่ติดอยู่บริเวณโซ่ เป็นต้น



ควรเปลี่ยนโซ่เมื่อใด?
  • เมื่อมีเสียงดังผิดปกติ อาจเกิดจากการยืดของโซ่ หรือชิ้นส่วนได้รับความเสียหาย
  • โซ่อายุการใช้งานของโซ่ประมาณ 10,000 – 15,000กม. เมื่อมีการดูแลรักษาตามขั้นตอนที่กำหนดไว้
  • สาเหตุของโซ่ยืด อยู่ที่การสึกหรอระหว่าง สลักกับปลอกสลัก เสียดสีกันจนทำให้เกิดช่องว่าง ( Gap )